1.16.2552

Our photo!!!























































































































































ทวนwill


Hello student!!
มาทวนเรื่อง Will กันเถอะจ่ะ++++


จากข้อความข้างบนที่วิ้งๆ อยู่นั้น

ทำให้เราได้ความรู้เรื่อง Will ด้วยนะ ขอบอก

ไม่เชื่อใช่ปะ
ไม่เชื่อลองดูตาม Aj.Win ทีละประโยคเลยนะ

เริ่มที่ประโยคแรกค่ะ
You will see a lot of things.

สังเกตประโยคนี้ ก็จะทำให้เราทราบโครงสร้างของการใช้ Will

You เป็นประธานของประโยค แถวบ้าน hi-so เรียก Subject
ตามด้วย will

see เป็นกริยาช่องที่ 1

สรุปได้ว่า S. + will + v.1

แค่นี้เอง


จิ๊บๆ

ไม่เชื่อนักเรียนลองวิเคราะห์ประโยคที่สองด้วยตัวเองสิ
คิดง่ายๆ เลียนแบบประโยคแรกที่ครูอธิบายให้ฟังนั่นแหละ


They will mean nothing to you.

S. --> They
will --> will
V.1 --> mean



บอกแล้ว

ว่าง่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย

Will What???

Simple Future ในรูปแบบ Will : [Subject + will + verb1]


I will help her later.แล้วฉันจะช่วยเธอในภายหลัง
Will you help her later?ในที่สุดคุณจะช่วยเหลือเธอไหม
You will not help her later.ในที่สุดคุณก็จะไม่ช่วยเหลือเธอ

เราใช้ will กับความตั้งใจหรือความสมัครใจที่จะกระทำ ซึ่งในภาษาอังกฤษเรียกว่า Voluntary Action ค่ะ
การใช้ will จะสื่อให้ผู้ฟังเข้าใจว่าผู้ที่ถูกกล่าวถึงในประโยคตั้งใจหรือสมัครใจที่จะทำกาลนั้นเพื่อสิ่งหนึ่งหรือเพื่อบุคคลหนึ่ง ซึ่งบ่อยครั้งที่เรามักจะใช้ will เพื่อตอบสนองการเรียกร้อง, ร้องขอ และการขอความช่วยเหลือ นอกจากนี้เรายังใช้ will เมื่อเราต้องการขอร้อง หรือขอความสมัครใจให้ใครทำอะไรสักอย่างให้กับเราได้เช่นกัน และแน่นอนค่ะว่า

ในทางตรงกันข้ามเราก็จะใช้ will not หรือ won’t กับการปฏิเสธได้เช่นกัน ดูตัวอย่างประโยคกันนะคะ
I will send you the information when I get it.ฉันจะส่งข้อมูลให้คุณเมื่อฉันได้รับมัน
I will translate this document, so Sirium can read it.ฉันจะแปลเอกสารนี้เพื่อให้สิเรียมสามารถที่จะอ่านมันได้
Will you help me move this heavy table?คุณช่วยฉันย้ายโต๊ะหนักๆตัวนี้หน่อยได้ไหมคะ
Will you make dinner?คุณจะทำอาหารมื้อเย็นไหมคะ
I will not do your homework for you.ฉันจะไม่ทำการบ้านให้เธอหรอก
I won’t do all the housework myself!ฉันจะไม่ทำการบ้านทั้งหมดของฉันหรอก


เราใช้ will เพื่อแสดงถึงการสัญญาว่าจะเป็นเช่นนั้นหรือจะเป็นเช่นนี้ ตัวอย่างเช่น
I will call you when I arrive.แล้วฉันจะโทรหาเธอเมื่อฉันมาถึง

Pranee promise she will not tell him about the surprise party.ปราณีสัญญาว่าจะไม่บอกเขาเกี่ยวกับงานเลี้ยงที่จะทำให้(เขา)ตื่นเต้นและประหลาดใจ
Don’t worry, I'll be careful.ไม่ต้องห่วงนะคะฉันจะระมัดระวังค่ะ
I won’t tell anyone your secret.ฉันจะไม่บอกใครเกี่ยวกับความลับของเธอ


นักเรียนที่รักกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!


ลองคลิกเข้าไปทำแบบฝึกหัดดูนะคะ


http://edtech.kku.ac.th/~ongart/443/44321275012/445050281-0/p6test.htm

Will

โครงสร้าง
บอกเล่า Subject + will + main verb (v.1)

ปฏิเสธ Subject + wil not(won't) + main verb(V.1)
คำถาม Wh- (What, When, Where, Why, How) + will + + Subject + main verb(v.1) ?

การใช้ will
ใช้กับเหตุการณ์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นในทันทีโดยทั่วไปเรามัก "will" กับการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเกือบจะทันทีที่พูดเสร็จ หรือใช้กับการกระทำที่จะทำในทันที ณ เวลาที่กล่าวเสร็จตัวอย่างเช่น
I'm starving. I'll go to 7-Eleven. (นั่นคือเมื่อพูดเสร็จ นายคนนี้ก็จะรีบเดินตรงไปที่เซเว่นอีเลฟเว่น เพื่อหาอะไรรองท้องในทันที)It's raining. I'll get an umbrella. (กรณีนี้คือ ฝนกำลังจะตก ผู้พูดพูดจบก็จะรีบไปหยิบร่มในทันที)
ใช้กับการกระทำหรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะมีคำบอกเวลาอนาคตกำกับอยู่ด้วย
- They will finish the work tomorrow.
- He will arrive next Saturday.
- Where will you be this time next year?
- I'll be in London tomorrow.
- Will you be at work tomorrow?
ใช้ในการพูดถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ไม่มีแผนที่จะพูดมาก่อน
- Hold on. I'll get a pen.
- We will see what we can do to help you.
- Maybe we'll stay in and watch television tonight.
มักจะใช้ กับคำกริยา to think
- I think I'll go to the gym tomorrow.
- I think I will have a holiday next year.
- I don't think I'll buy that car.
ใช้ในการพูดทำนองทำนายการเกิดเหตุการณ์อนาคต
- It will rain tomorrow.
People won't go to Jupiter before the 22nd century.
- Who do you think will get the job?
- The movie "Troy " will win several Academy Awards.
- It will rain tomorrow.
ใช้กับสถานการณ์แสดงการสมัครใจ เสนอตัวทำ
- Will someone open the window for me?
- I'll do it!
- A: I'm really hungry. B: I'll make some sandwiches.
- A: I'm so tired. I'm about to fall asleep. B: I'll get you some coffee.

9.01.2551

Past tense

Past Simple Tense

การใช้แบบที่ 1 ใช้กับการกระทำที่ทำสมบูรณ์ในอดีต โดยการกระทำนั้นเริ่มในอดีต และจบไนอดีต บางครั้งผู้พูดอาจไม่ได้บอกออกมาว่าเหตุการณ์นั้นทำไปเมื่อไหร่ แต่จริงๆแล้วเขาทราบเวลาที่แน่นอนที่การกระทำนั้นเกิดขึ้น
เช่น
I saw a movie yesterday.ฉันดูภาพยนตร์เมื่อวานนี้
I didn't see a movie yesterday.ฉันไม่ได้ดูภาพยนตร์เมื่อวานนี้
Last year, I traveled to Japan.ปีที่แล้วฉันเดินทางไปญี่ปุ่น
Last year, I didn't travel to Japan.ปีที่แล้วฉันไม่ได้เดินทางไปญี่ปุ่น
She washed her car.หล่อนล้างรถของตัวเอง
She didn't wash her car.หล่อนไม่ได้ล้างรถของตัวเอง
การใช้แบบที่ 2ใช้กับการกระทำหลายอย่างที่สมบูรณ์ไปหมดแล้ว โดยเราจะใช้ Past simple เพื่อบอกการกระทำต่างๆ ทำทำเสร็จแล้ว การกระทำเหล่านี้เกิดขึ้นตามๆ กันมาเป็นลำดับ
เช่น
I finished work, walked to the beach, and found a nice place to swim.ฉันทำงานเสร็จ เดินไปชาดหาด แล้วก็พบสถานที่ที่ดีสำหรับการว่ายน้ำ
He arrived at the airport at 8:00, checked into the hotel at 9:00, and met the others at 10:00.เขามาถึงสนามบินตอน 8 โมง เช็คอินเข้าโรงแรมตอน 9 โมง และก็เจอกับคนอื่นๆตอน 10 โมง
การใช้แบบที่ 3ใช้กับช่วงเวลาหนึ่งที่เกิดขึ้นในอดีต และจบลงในอดีต ช่วงเวลานั้นๆเป็นช่วงเวลาของการกระทำที่กินเวลานาน มักมีคำว่า for เพื่อบอกระยะเวลาว่าเหตุการณ์กินเวลานานเพียงใด เช่น for two year (เป็นเวลาสองปี), for five miniutes (เป็นเวลาห้านาที), all day (ตลอดทั้งวัน), all year (ตลอดทั้งปี)
เช่น
I lived in Brazil for two years.ฉันอยู่ในบราซิลเป็นเวลาสองปี (เวลาไม่ได้อยู่ที่บราซิลแล้ว)
Shauna studied Japanese for five years.โชนาเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นเวลาห้าปี (ตอนนี้ไม่ได้เรียนแล้ว)
They sat at the beach all day.พวกเขานักอยู่ที่ชายหาดตลอดทั้งวัน (ตอนนี้ไม่ได้นั่งที่นั่นแล้ว)
We talked on the phone for thirty minutes.พวกเราคุยโทรศัพท์กันเป็นเวลาสามสิบนาที่ (ตอนนี้วางหูไปแล้ว)
How long did you wait for them?We waited for one hour.คุณรอเขาอยู่นานแค่ไหน?พวกเรารอเขาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง (ตอนนี้ไม่ได้รอแล้ว)
การใช้แบบที่ 4ใช้กับนิสัยที่ทำเป็นประจำในอดีต ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ทำอย่างนั้นอีกแล้ว บางครั้งอาจมีความหมายเหมือนกับการใช้คำว่า used to (เคย) ดังนั้นถ้าเราต้องการเน้นว่าสิ่งที่พูดเป็นนิสัยที่ทำอยู่เป็นประจำในอดีต เราจะใช้คำต่อไปนี้ในประโยคที่ใช้ Past Simple ด้วย เช่น always (เป็นประจำ), often (บ่อยๆ), usually (โดยปกติ), never (ไม่เคย), when I was a child (ตอนที่ฉันเป็นเด็ก), when I was younger (ตอนที่ฉันอายุน้อยกว่านี้)
เช่น
I studied French when I was a child.ฉันเคยเรียนภาษาฝรั่งเศสตอนที่ฉันเป็นเด็ก
He played the violin.เขาเล่นเปียโน (ตอนนี้เลิกเล่นไปแล้ว)
She worked at the movie theater after school.หล่อนทำงานที่โรงหนังหลังเลิกเรียน (ตอนนี้ไม่ได้ทำอย่างนั้นแล้ว)
They never went to school, they always skipped.พวกเขาไม่เคยไปโรงเรียน พวกเขาโดดเรียนอยู่เป็นประจำ

8.29.2551

Comparison of Adjectives

Adjectivesการเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ ( Comparison of Adjectives )

การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ ( Comparison of Adjectives ) เป็นการเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ที่ไปแสดงคุณภาพของนามเพื่อจะบอกให้รู้ว่านามนั้นมีลักษณะ เท่าเทียมกันหรือไม่ อย่างไร แบ่งออกเป็น 3 ขั้น คือ
การเปรียบเทียบขั้นปกติ ( Positive Degree )
ใช้เปรียบเทียบความเท่าเทียมกัน ไม่เท่าเทียมกัน เช่น long, short, small , big , fast, slow เป็นต้น
การเปรียบเทียบขั้นกว่า ( Comparative Degree )
ใช้เปรียบเทียบกับนาม 2 จำนวน เช่น longer, shorter, smaller, bigger , faster, slower เป็นต้น
การเปรียบเทียบขั้นสูงสุด ( Superlative Degree )
ใช้เปรียบเทียบกับนามที่มีจำนวนตั้งแต่ 3 ขึ้นไป เช่น longest, shortest, smallest, biggest เป็นต้น



1. การเปรียบเทียบขั้นปกติ ( Positive Degree ) มีตัวเชื่อมหลายรูปแบบดังต่อไปนี้
รูปแบบ
as+ adj. + as
แสดงความ เท่าเทียมกัน เช่น
This pencil is as long as that one. ดินสอแท่งนี้ยาวเท่าๆกับแท่งนั้น
กรณีต้องการเปรียบเทียบความไม่เท่ากันมีรูปแบบดังนี้
not as + adj. + as
เช่น
This road is not so long as that one. ถนนเส้นนี้ไม่ยาวเท่าเส้นนั้น
หรือ This road is not as long as that one.


2. การเปรียบเทียบขั้นกว่า ( Comparative Degree )
การเปรียบเทียบที่สูงกว่า แสดงในรูป
S1+ is/am/are+ adj.+ -er + than +s2

เช่น I am older than you. ฉันแก่กว่าคุณ

This road is longer than that one. ถนนเส้นนี้ยาวกว่าเส้นนั้น

You are taller than me. หรือ You are taller than I am. เธอสูงกว่าฉัน

S1 + is/am/are + more + adj. +than +s2

A pen is more expensive than a pencil. ปากกามีราคาแพงกว่าดินสอ


3. การเปรียบเทียบขั้นสูงสุด ( Superlative Degree )
รูปแบบมีดังนี้
S + is/am/are +the + adj.+est ---> Tic is the richest man.
S + is/am/are + the + most + adj. ---> I am the most beautiful girl in this class.

Adjective 3 degree